บทนำ
ในฐานะที่เราเป็นนักลงทุนหรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ซื้อขาย ความคิดและพฤติกรรมในการวิเคราะห์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการสั่งซื้อ แล้วยังถึงการปิดการซื้อขาย นั่นคือที่มาของสิ่งที่เราพูดถึงว่า “ระบบการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ” การรับรู้เกี่ยวกับการลงทุนจะส่งผลต่อวิธีการวิเคราะห์ที่เราใช้ วิธีการวิเคราะห์จะนำไปสู่การดำเนินการที่แตกต่างกันอย่างไร และการดำเนินการนั้นจะส่งผลต่อผลลัพธ์การซื้อขายอย่างไร นี่คือชุดของการกระทำที่ประกอบกันเป็น “ระบบการซื้อขาย”
ปัญหาในการซื้อขาย
ตัวอย่างเช่น เมื่อเริ่มซื้อขายครั้งแรก หลายคนอาจไม่สามารถคิดอย่างมีแบบแผนเกี่ยวกับการซื้อขายได้ บางคนซื้อเพราะได้ยินมาว่าจะขึ้นราคา เสร็จแล้วก็ทำกำไรได้และแฮปปี้ที่ได้ปิดการซื้อขาย แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าขาดทุนและรู้สึกสับสนต่อไป เรื่อยไปจนกว่าจะตัดสินใจหยุดขาดทุนหรือรอผลลัพธ์ในการซื้อขายต่อไป ซึ่งการรอนั้นอาจส่งผลได้สองทาง คือราคากลับขึ้นมา หรือไม่กลับไปทำให้ขาดทุนมากขึ้น
ลักษณะของระบบการลงทุน
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวก็เป็นส่วนหนึ่งของ “ระบบการลงทุน” ของผู้ซื้อขาย แต่อาจกล่าวได้ว่า ระบบที่ไม่มีเหตุผลก็จะทำให้เกิดการขาดทุนอย่างบ่อยครั้ง แต่ละคนมีวิธีการวิเคราะห์ที่ต่างกันและการรับรู้ที่แตกต่างกัน น้ำหนักของการสรุปผลก็แตกต่างกันไป นำไปสู่ระบบการซื้อขายที่ต่างกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ลักษณะสำคัญของระบบ
อย่างไรก็ตาม หากมีระบบการซื้อขายก็จะมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญดังนี้ 1. ทิศทาง นั่นคือ ระบบการซื้อขายของเราต้องสามารถบอกได้ว่าเราควรซื้อหรือขาย (ถูกหรือผิดไม่ใช่ประเด็น) ต้องมีการกำหนดทิศทางการซื้อขายให้ชัดเจน หากระบบของเราไม่สามารถให้ทิศทางการซื้อขายที่ชัดเจนได้ ระบบของเราก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าจริงๆ จะเป็นระบบที่ดี
ราคาในการซื้อขาย
2. ราคา ระบบควรให้ราคาในการซื้อและขายอย่างชัดเจน รวมถึงราคาเปิด ราคาเมื่อทำกำไร และราคาเมื่อขาดทุน (จุดหยุดขาดทุน) ราคาเหล่านี้ควรจะปรากฏอยู่ก่อนที่เราจะทำการซื้อขาย
ความสามารถในการทำกำไรและขาดทุน
3. ความสามารถในการทำกำไรและการขาดทุน ทุกระบบการซื้อขายจะมีวิธีการทำกำไรและวิธีการขาดทุน ซึ่งเราเข้าใจดีว่านี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่มีการลงทุนที่ถูกต้อง 100% สำหรับระบบการซื้อขาย ความมีอยู่ของทั้งสองวิธีนี้เป็นสิ่งที่แน่นอน และขณะใช้ “ระบบการซื้อขาย” จะทำให้เราสามารถหาความสามารถในการทำกำไรหรือการขาดทุนได้ ระบบที่มีสามลักษณะข้างต้นเท่านั้นที่ถือเป็นระบบที่มีชีวิต และจะสามารถยืนยันได้เป็นระยะยาว
ประโยชน์ของระบบการซื้อขายที่ดี
แล้วระบบการซื้อขายที่มีชีวิตดีจะนำมาซึ่งอะไร? ผ่านการซื้อขายเป็นระยะเวลาหนึ่ง บัญชีของเราจึงสามารถทำกำไรได้มากกว่าขาดทุน นี่เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาในการสร้างระบบการซื้อขายของเรา หากระบบของเรานำไปสู่การขาดทุนต่อเนื่อง ก็จำเป็นต้องปรับปรุงระบบ
การควบคุมการซื้อขายและทักษะที่จำเป็น
การซื้อขายต้องการความสามารถพื้นฐานนั่นคือ คุณต้องสามารถระบุความผันผวนของสินทรัพย์ได้ ไม่ใช่แค่การตัดสินใจ แต่คือให้ระบบการซื้อขายเป็นแนวทางในการเข้าหรือออก คุณต้องทำเพียงแค่ปฏิบัติตาม และดำเนินการโดยอาจมีการปรับปรุงในบางช่วงเวลา ความสามารถในด้านนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และพรสวรรค์ของบุคคล
ทักษะการวิเคราะห์ทางการตลาด
สินค้าทุกชนิดมีกฎการซื้อขายที่แตกต่างกัน และแม้ว่าจะเป็นสินค้าชนิดเดียวกันก็มีความแตกต่างในรอบเวลาที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกัน ตัวชี้วัด กราฟแท่งเทียน และสิ่งต่างๆ นั้นไม่มีรอบเวลาที่ถูกต้องแน่นอนแต่ละคนจะเหมาะสมกับการซื้อขายที่แตกต่าง
การตัดสินใจในการเข้าซื้อ
คนทั่วไปมักตกอยู่ในกับดักการตัดสินใจเข้าซื้อแบบไม่ถูกต้อง การคาดการณ์ตลาดเป็นสิ่งที่ไม่ชาญฉลาด แต่คุณต้องรู้ว่า ในตำแหน่งนี้ หากคุณเข้าซื้อ อัตราส่วนกำไร/ขาดทุนจะเป็นอย่างไร อัตราความสำเร็จคร่าวๆ เป็นอย่างไร และเมื่อใดที่จะเพิ่มจำนวนการซื้อ ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ ณ ขณะนั้น
การพัฒนาและการเรียนรู้ในตลาด
เมื่อคุณมีระบบการซื้อขายแล้ว คุณยังคงต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่จำเป็น ซึ่งเรียกว่า ศิลปะแห่งการซื้อขาย และเป็นที่รู้จักกันว่า “สัญชาตญาณการซื้อขาย” หากไม่มีระบบการซื้อขาย ก็จะต้องพิจารณามากขึ้นไปอีก การซื้อขายไม่มียาเม็ดมหัศจรรย์ที่สามารถทำให้ได้ผลทันที สิ่งที่ต้องทำคือการศึกษาและวิเคราะห์อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อสรุป
ขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามระบบ เพราะมีหลายคนรอบตัวฉันที่ไม่มีความสามารถในการดำเนินการให้สำเร็จ
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น